วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555

รวมรูปภาพและวีดีโอพัฒนาการเด็ก


น้องเวียงพิงค์วัย 2 ขวบ 2 เดือน
เรียนรู้พยัญชนะไทย








รวมรูปภาพน้องเวียงพิงค์ค่ะ
ปล.เจ้าของบล๊อกชื่นชอบและหลงรักน้องเวียงพิงค์มากค่ะ ^_^








ขอบคุณภาพและวีดีโอจากแฟนเพจน้องเวียงพิงค์ค่ะ
https://www.facebook.com/น้องเวียงพิงค์-WeingPing











การส่งเสริมพัฒนาการเด็ก 0-3 ปี



การส่งเสริมพัฒนาการเด็กวัย 0-3 ปี




เขียนโดย พญ.ปิยาภรณ์ บวรกีรติขจร   
อาทิตย์, 15 สิงหาคม 2010 
โดยอาจารย์ประภาศรี นันท์นฤมิตจากหนังสือสายใยรักแห่งครอบครัว 


กระบวนการพัฒนาการของเด็ก มีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับพัฒนาการของสมอง พบว่าสมองจะมีการพัฒนาอย่างมากตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา โดยมีการแบ่งตัวของเซลล์ประสาท และมีการส่งปลายประสาทเชื่อมโยงระหว่างเซลล์เหล่านั้น เมื่อแรกเกิด เด็กจะมีพัฒนาการในระดับที่สามารถรับรู้ เรียนรู้ และดำรงชีวิตอยู่โดยมีการช่วยเหลือจากผู้เลี้ยงดู ในช่วงเวลานั้นสมองของเด็กจะต้องพัฒนาต่อไปโดยมีสิ่งสนับสนุนคือได้รับอาหารที่เหมาะสม เช่นได้รับการเลี้ยงดูด้วยนมแม่ร่วมกับการเลี้ยงดูในบรรยากาศที่มีการส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็ก ช่วงเวลาที่สมองมีการพัฒนาเร็วมากคือช่วง 3 ปีแรกของชีวิต หลังจากนั้นเซลล์สมองจะมีการพัฒนาลดลงหลังเด็กอายุ 5 ปี แต่จะมีการพัฒนาของการเชื่อมโยงระหว่างเซลล์สมองต่อไปอีก ทั้งนี้สมองของเด็กจะมีขนาดเท่ากับสมองของผู้ใหญ่เมื่อเด็กอายุประมาณ 12-15 ปี จึงเป็นความจำเป็นที่ควรส่งเสริมพัฒนาการโดยเฉพาะในเด็กแรกเกิดถึง 5 ปี

แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย  มีดังต่อไปนี้ 

ทารกแรกเกิด 

หมั่นให้ความสนใจเมื่อเด็กร้องและอุ้มเด็กไว้ เพื่อให้เกิดความอบอุ่นและเชื่อมั่น 
มองสบตาเด็กเมื่อเด็กอยู่ในระยะตื่นสงบ พยายามยิ้ม ทำสีหน้า แลบลิ้น ทำปากจู๋ พูดคุย ร้องเพลงระหว่างให้ลูกดูดนมแม่ เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ แสดงความดีใจและชมเชยเมื่อเด็กมีการตอบสนองต่อการกระตุ้นต่างๆ เช่นการเลียนแบบ ทำสีหน้า 
วาดรูปหน้าคนง่ายๆ หรือ นำตุ๊กตาสัตว์ มาให้ดู โดยถือห่างจากตาเด็ก 8-12 นิ้ว  
ต้องรอเวลาที่เหมาะสมในการเล่น หรือ กระตุ้นเด็ก 
  
ทารกแรกเกิดถึง 4 สัปดาห์ 
 
อุ้มเด็กหันหน้าเข้าหาแม่ (face to face) ตามองตา อุ้มท่าพาดบ่าโดยมีคนมาคุยกับเด็ก เวลาร้องอุ้มทันที ลูบไล้สัมผัส โอบอุ้มเด็กบ่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าเด็กจะติดมือ หาของสีสดใส ให้มองดู พูดบอกเวลาทำอะไรกับตัวเขา ใส่นิ้วในอุ้งมือเด็กให้เด็กกำ 
  
เด็กวัย 4-8 สัปดาห์ 
 
อุ้มเด็กบ่อยๆ พูดคุยลูบไล้ตัวเด็กบ่อยๆ จับเด็กนั่งหลังพิงอก อุ้มให้ดูสิ่งต่างๆรอบตัว ให้เด็กนอนคว่ำบ้าง หงายบ้าง ส่งเสียงเรียกเด็ก หรือ เขย่าของเขย่าให้เด็กมองหาที่มาของเสียง แขวน mobile ให้เด็กหัดคว้าจับ ร้องเพลง พูดคุย บอกกับเด็กเวลาจะทำอะไรกับเขา 
  
เด็ก 8-12 สัปดาห์ 

 
ให้เด็กนอนคว่ำให้หัดยกศีรษะ ให้เด็กคว้าจับสิ่งของ และให้เล่นของเขย่าที่มีเสียงดัง พูดคุยเล่น หัวเราะทำท่าทางต่างๆให้เด็กเล่นด้วย ให้เด็กเล่นมือ ดูดนิ้ว รับรู้ความต้องการเมื่อเด็กส่งสัญญาณบอก เช่น การร้องเพื่อให้อุ้ม ร้องเมื่อหิว เปียกแฉะ บอกให้เด็กรับรู้ว่าคนรอบข้างเขาเป็นใคร ขยับแขน ขา นวดสัมผัสให้เด็กบ่อยๆ 
  
เด็กวัย 12-16 สัปดาห์ 
ทำเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้  และท่านอนหงายให้หัดตะแคงตัว ท่านอนคว่ำหัดยกหัวและอกให้พ้นพื้นโดยเอาแขนยัน ให้มองลูกปัดเล็กๆ ที่อยู่ตรงหน้า และพยายามเอื้อมจับ หัดเอามือทั้ง 2 ข้างมาประสานกัน พูดคุย ร้องเพลงเล่น ส่งเสียงโต้ตอบกับเด็ก 
  
เด็กวัย 16 -20 สัปดาห์ 
 
ทำเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้และชี้ชวนให้มองตามสิ่งของที่เคลื่อนไหว ให้เด็กจับ mobile ให้เคลื่อนไหวไปมา ให้เด็กลากของเล็กๆที่ผูกเชือกไว้เข้าหาตัว ให้เด็กหัดพลิกคว่ำหรือหงาย  ร้องเพลง พูดคุย ทักทายเด็กด้วยชื่อของเขา หัดให้เด็กหยิบจับสิ่งของขนาดต่างๆ กัน 
  
เด็กวัย 20-28 สัปดาห์ 
 
พูดคุยกับเด็กบ่อยๆให้เด็กเล่นกับกระจก ให้เด็กมองตามของตก เล่นหาของที่มีผ้าคลุมไว้บางส่วน  ให้ถือของเล็กๆไว้ในมือ ข้างละ 1 ชิ้น หัดให้เปลี่ยนมือถือของ  หัดให้เด็กพลิกคว่ำ หงายจับนั่งพิงเบาะ ให้นั่งโดยใช้มือยัน และหัดคืบไปหาสิ่งของที่วางล่อไว้ข้างหน้า 
  
เด็กวัย 28-36 สัปดาห์ 


หัดให้เด็กนั่งเอง หัดคลานไปหาสิ่งของต่างๆ เล่นจ๊ะเอ๋  ตบแผะ หัดให้หยิบจับสิ่งของเล็กๆด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ แล้วเอาเข้าปาก  เล่นปาของลงพื้นให้เกิดเสียงดัง หัดให้เลียนเสียงสูง ต่ำ ตามที่ผู้ใหญ่สอน เรียกชื่อเด็กบ่อยๆเพื่อให้รู้จักชื่อตนเอง สอนให้รู้จัก พ่อ แม่ การพูดให้เด็กฟังต้องพูดช้าๆ ชัดเจน และบ่อยๆ โดยกระตุ้นให้เด็กมองปาก 
  
เด็กวัย 36 -44 สัปดาห์ 

 
สอนให้หยิบจับของด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้บ่อยๆจนคล่อง ให้เด็กหัดดื่มน้ำจากแก้ว หัดหยิบอาหารเข้าปาก รู้จักอวัยวะต่างๆบนใบหน้า โดยทำท่าทางให้เด็กเลียนแบบ เช่น ทำปากจู๋ ทำตาหยี หัดให้ปล่อยของเมื่อขอและฝึกทำบ่อยๆ ให้โอกาสหยิบจับดินสอขีดเขียน หัดให้เดินเกาะเฟอร์นิเจอร์ และจูงเดิน 
  
เด็กวัย 44-52 สัปดาห์ 

หัดตั้งไข่ ยืนทรงตัวและเดินเองหัดหยิบจับสิ่งของ และเรื่องการช่วยตนเอง หัดกินอาหารด้วยตนเอง และกินอาหารร่วมโต๊ะกับผู้ใหญ่ หัดเรื่องการช่วยตนเองในเรื่องการแปรงฟัน  ถอดเสื้อผ้า รู้จักคนใน ครอบครัว 
  
เด็กวัย 1ปี-1½ ปี 


พาเดินเล่นบ่อยๆ หัดพูดเป็นคำๆจากสิ่งต่างๆแวดล้อมตัวเด็ก สอนให้ร้องเพลง เต้นตามจังหวะ เลียนแบบผู้อื่น หัดกินอาหารด้วยช้อน ดื่มน้ำจากแก้วน้ำ หัดถอดกางเกง และหัดใส่กางเกง สอนให้บอกเวลาอุจจาระ ปัสสาวะ สอนให้รู้จักอวัยวะในร่างกาย สอนให้ดูรูปจากหนังสือ สอนให้เด็กขีดเขียนด้วยดินสอ 
  
เด็กวัย 1½ - 2 ปี 

ให้เล่นเตะบอล โยนบอล ให้หัดดูหนังสือและพลิกทีละหน้า ให้เข้าห้องน้ำ ถอดกางเกงเวลาอุจจาระ ปัสสาวะ ให้กินอาหารด้วยตนเอง พูดคุยซักถามให้เด็กตอบ สอนให้รู้จักสีแล จำนวน ให้หัดขีดเขียนรูปกากะบาด และวงกลม ให้ต่อแท่งไม้ 
  
เด็กวัย  2-3 ปี 

ส่งเสริมกิจกรรมกลางแจ้ง การวิ่งเล่น การเข้ากลุ่มกับเด็กอื่น ฝึกหัดการขีดเขียน ฝึกหัดการช่วยเหลือตนเองในกิจวัตรประจำวัน การฝึกหัดขับถ่าย ฝึกหัดให้ควบคุมตนเองเวลาโกรธ โมโห สอนให้รักการอ่าน โดยมีคนทำเป็นตัวอย่าง มีหนังสือที่เหมาะสม และสอนให้รู้จักการแบ่งปัน










พัฒนาการเด็กวัย 2-3 ปี


พัฒนาการเด็กอายุ 2-3 ปี
และพัฒนาการที่ควรสงสัยว่าผิดปกติ



ลูกวัยนี้เป็นวัยที่ย่างเข้าสู่วัยก่อนเรียน เป็นช่วงที่การเจริญเติบโตทางร่างกาย และพัฒนาการการเคลื่อนไหวเริ่มช้าลง แต่พัฒนาการด้านสมองก้าวหน้า จะเห็นได้ว่า ลูกฉลาดขึ้น สังคมและอารมณ์ก็มีการเปลี่ยนแปลง พูดเก่งขึ้น ต้องการเป็นอิสระ และควบคุมตัวเองได้ดี คุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ว่า ลูกเมื่อเติบโตมาถึงอายุ 2 ขวบ จะเริ่มปฏิเสธเสมอ เข้าวัย “เจ้าวายร้าย อายุ 2 ขวบปี (Terrible twos)”
พัฒนาการที่ปกติด้านการเคลื่อนไหว
- ปีนป่ายได้ดี
- ขึ้นลงบันไดโดยก้าวสลับเท้า
- เตะบอล
- วิ่งได้ว่องไว
- ถีบสามล้อได้
- ก้มลงได้โดยหัวไม่ขมำ
สงสัยพัฒนาการผิดปกติ มีอาการดังต่อไปนี้
- หกล้มบ่อย ๆ ขึ้นบันไดด้วยความยากลำบาก
- น้ำลายไหลตลอดเวลาหรือพูดไม่ชัด
- ต่อบล็อกได้ไม่ถึง 4 บล็อก
- หยิบจับของชิ้นเล็กไม่ค่อยถนัด
- เขียนวงกลมให้ดูแล้ว เขียนตามไม่ได้
- พูดเป็นวลีสั้น ๆ ไม่ได้
- เล่นสมมติไม่เป็น
- ไม่เข้าใจคำบอกง่าย ๆ
- ไม่ค่อยสนใจเด็กคนอื่น ๆ
- ไม่ยอมจากแม่เลย

พัฒนาการด้านอื่นๆที่ปกติสำหรับเด็กวัยนี้มีดังนี้

การใช้มือและนิ้ว
- เขียนเส้นตั้ง เส้นนอน และวงกลมได้
- เปิดหนังสือทีละหน้า
- ต่อบล็อกได้ถึง 6 บล็อก
- จับดินสอในท่าเขียนเหมือนเด็กโต
- หมุนปากขวดบิดและเปิดได้
- หมุนพวงมาลัยได้
ด้านภาษา
- ทำตามคำสั่ง 2-3 อย่างได้
- รู้จักสิ่งของที่คุ้นเคยและรูปภาพของคนที่รู้จัก
- เข้าใจประโยคต่าง ๆ มากขึ้น
- เข้าใจความสัมพันธ์ของสิ่งที่อยู่ “บน” “ใน “ และ “ใต้”
- ใช้ประโยคยาว 4-5 คำ
- บอกชื่อ อายุ และเพศของตนเองได้
- ใช้สรรพนามแทนตัวได้
- พูดให้ผู้อื่นเข้าใจได้ส่วนใหญ่
ความจำและความฉลาด
- จัดของเล่นที่เหมือนกันให้อยู่กลุ่มเดียวกันได้
- เล่นสมมติกับตุ๊กตา สัตว์ และเพื่อนได้
- หาสิ่งของที่รูปร่างและสีมาเติมตรงที่ขาดได้
- ต่อรูปภาพ 3-4 ชิ้น เข้ากันได้
- เข้าใจความหมายของ “สอง”
ด้านสังคมและอารมณ์
- ทำตามผู้ใหญ่และเพื่อน
- ชอบเพื่อนที่คุ้นเคยกัน
- รอจังหวะผลัดกันเล่นเป็นแล้ว
- เข้าใจความหมายของ “ของฉัน” “ของเธอ”
- แสดงความรัก ชอบ อย่างเปิดเผย
- แสดงออกด้านอารมณ์หลากหลาย
- จากแม่ไปโรงเรียนหรือที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ร้องตาม
- ขัดขืนการเปลี่ยนแปลงที่เขาทำเป็นประจำ
กิจกรรมที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องทำในช่วงนี้
- พาลูกไปตรวจฟัน
- ฝึกหัดให้ลูกขับถ่าย
- การนอน เด็กวัยนี้ต้องนอน 9-13 ชั่วโมง
- ฝึกระเบียบวินัย
- เตรียมตัวไปโรงเรียน


ขอบคุณภาพและวีดีโอจากแฟนเพจน้องเวียงพิงค์ค่ะ
https://www.facebook.com/น้องเวียงพิงค์-WeingPing


พัฒนาการเด็กวัย 1-2 ปี


พัฒนาการของเด็กวัย 1 - 2 ปี

เด็กวัย 1 - 2 ปี จะเป็นวัยที่มีความต้องการเป็นตัวของตัวเอง ชอบเล่นเชิงสำรวจ และชอบการเลียนแบบ พฒันาการเดก็ ในวัยนี้ในแต่ละด้าน เป็นดังนี้
-  พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว
เดินได้เอง เดินขึ้น / ลงบันได พักเท้าแต่ละขั้น มือจับราวบันได
-  พัฒนาการด้านการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา
สามารถขีด เขียนเส้นที่ไม่มีความหมาย เป็นระเบยีบลงบนกระดาษได้ ใช้นวิ้มือไดค้ลอ่งขึ้น จับคู่วัตถุที่เหมือนกัน ต่อก้อนไม้ สี่เหลี่ยมลูกบาศก์เป็นหอสูงได้ และวางรูป ในช่องกระดานรูปแบบได้
- พัฒนาการด้านความเข้าใจภาษา เลือกวัตถุและรูปภาพที่คุ้นเคยได้ตามสั่ง ชี้อวัยวะของร่างกายได้ 7 ส่วน ทำตามคำสั่งง่าย ๆ ได้ 3 อย่าง มีความตั้งใจฟังนิทานเรื่องสั้นจนจบ
-  พัฒนาการด้านการใช้ภาษา เลียนแบบการพูด และพูดเป็นคำ ๆให้ผู้ใหญ่เข้าใจได้
- พัฒนาการด้านการช่วยเหลือตนเองและสังคม ดื่มน้ำรับประทานอาหารได้เองโดยไม่หก ถอดกางเกงเอวยางยืดได้ เริ่มถ่ายอุจจาระเป็นเวลา เริ่มกลั้นปัสสาวะได้ในช่วงเวลากลางวัน สามารถเข้าไปเล่นกับเด็กคนอื่นแบบต่างคนต่างเล่น และปกป้องสิ่งของเมื่อถูกแย่ง
- พัฒนาการด้านการแสดงออกทางอารมณ์ เมื่อ โกรธจะแสดงออกทางร่างกายอย่างรุนแรง พึงพอใจเมื่อได้รับคำตอบจากเรื่องที่อยากรู้ กลัวสิ่งที่เกิดจากจินตนาการ รักและเรียนรู้ที่จะสร้าง ความผูกพันกับคนใกล้ชิด

พัฒนาการของเด็กวัย 2 - 3 ปี

เด็กวัย 2 - 3 ปี จะเป็นเด็กช่างสงสัย เต็มไปด้วยคำถาม การเฝ้าดูการสังเกตและการเลียนแบบเชิงสำรวจ มีความสนใจในการฝึกทักษะอย่างมากชอบทำกิจกรรมซ้ำ ๆ วัยนี้จึงเป็นช่วงสำคัญที่จะทำให้เด็กเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงและความต่อเนื่องที่เกิดขึ้นในเวลาต่อมา ชอบขีดเขียนเป็นเส้นยาววงกลม และตั้งชื่อเส้นที่ขีดเขียนได้ พัฒนาการเด็กวัยนี้ในแต่ละด้าน เป็นดังนี้
- พัฒนาการด้านการเคลื่อนไหว ถีบจักรยานสามล้อได้ ยืนด้วยขาข้างเดียวได้ กระโดดอยู่กับที่ได้ เดินขึ้นลงบันไดสลับเท้าได้ เล่นกระดานลื่นได้เอง ขว้างลูกบอล วิ่งไปเตะลูกบอลได้
- พัฒนาการด้านกล้ามเนื้อมัดเล็ก ประกอบรูปจิ๊กซอว์ 3 - 6 ชิ้นได้จับคู่รูปภาพ รูปเรขาคณิต จับคู่สีได้ รู้จักแม่สีหรือสีพื้น ๆ วาดรูปง่าย ๆวาดรูปคนได้ ปั้นดินน้ำมันเป็นก้อนกลม ๆ เป็นแท่งหรือบิดเป็นเกลียวร้อยลูกปัดขนาดเล็กได้ ดูหนังสือได้ด้วยตนเอง
- พัฒนาการด้านความเข้าใจภาษา ทำตามคำสั่งที่เกื่ยวข้องกับการกระทำได้ 2 - 3 อย่าง ต่อวัตถุ 2 - 3 ชนิด ในประโยคเดียวกัน ชี้อวัยวะของร่างกายได้ 10 ส่วน เลือกรูปภาพตามสั่งได้ วางวัตถุไว้ข้างบน ข้างใต้ และข้างในได้ สนใจฟังนิทานได้นาน 10 นาที เลือกจัดกลุ่มวัตถุตามประเภทได้
- พัฒนาการด้านการใช้ภาษา พูดเป็นประโยคสมบูรณ์โดยใช้คำ3 - 5 คำ เล่านิทานจากรูป หรือหนังสือง่าย ๆ ได้ พูดตอบโต้คำถามต่าง ๆ  3 คำถาม ในเรื่องเดียวกัน พูดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านไปใหม่ ๆ ได้
- พัฒนาการด้านการช่วยเหลือตนเองและสังคม เริ่มเล่นสมมติรู้จักรอคอย ไม่ร้องไห้เมื่อแยกจากแม่ ใช้หลอดดูดของเหลวได้ ใช้ส้อมจิ้ม อาหารรับประทานได้ ใส่ - ถอดเสื้อ / กางเกงได้ บอกเมื่อจะขับถ่าย แปรงฟันได้โดยผู้ใหญ่ช่วย ล้างมือและเช็ดมือได้
- พัฒนาการด้านการแสดงออกทางอารมณ์ เมื่อรู้สึกโกรธจะแสดงออกโดยท่าทางร่วมกับภาษากลัวสิ่งที่เกิดจากจินตนาการมากขึ้นรักและเรียนรู้ที่จะสร้างความผูกพันกับคนนอกบ้าน




ขอบคุณวีดีโอจากแฟนเพจน้องเวียงพิงค์ค่ะ
https://www.facebook.com/น้องเวียงพิงค์-WeingPing



วันอาทิตย์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2555

พัฒนาการเด็ก 0-1 ปี



พัฒนาการเด็กวัย 0-1 ปี



การพัฒนาการของเด็กทุกคนนั้น และมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับการพัฒนาการของสมอง ดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อ และแม่นั้นต้องดูแลอย่างใกล้ชิด สมองของเด็กนั้นจะมีการพัฒนาอย่างมากตั้งแต่อยู่ในครรภ์ของมารดา โดยมีการแบ่งตัวของเซลล์ประสาท และมีการส่งปลายประสาทเชื่อมโยงระหว่างเซลล์เหล่านั้น และช่วงเวลาที่สมองมีการพัฒนาเร็วก็คือช่วง 3 ปีแรกของชีวิตนั้นเอง
 
แนวทางการส่งเสริมพัฒนาการตามวัย
ทารกแรกเกิด ต้องสนใจให้ความใส่ใจในเมื่อเด็กร้องและอุ้มเด็กไว้ เพื่อให้เกิดความอบอุ่นและเชื่อมั่น และเราควรพยายามยิ้ม ทำสีหน้า แลบลิ้น ทำปากจู๋ พูดคุย ร้องเพลงระหว่างให้นมแม่ เปลี่ยนผ้าอ้อม อาบน้ำ แสดงความดีใจและชมเชยเมื่อเด็กมีการตอบสนอง
ทารกแรกเกิดถึง 1 เดือน  “ตามองตา” อุ้มท่าพาดบ่าโดยมีคนมาคุยกับเด็ก เวลาร้องอุ้มทันที ลูบไล้สัมผัส โอบอุ้มเด็กบ่อยๆ และไม่ต้องกลัวว่าเด็กนั้นจะติดมือ
เด็กวัย 1-2 เดือน   การอุ้มเด็กบ่อยๆ พูดคุยลูบไล้ตัวเด็กบ่อยๆ จับเด็กนั่งหลังพิงอก ให้เด็กนอนคว่ำบ้าง หงายบ้าง ส่งเสียงเรียกเด็ก หรือ เขย่าของเขย่าให้เด็กมองหาที่มาของเสียง ให้รับรู้หรือให้เขาเป็นที่สงสัยตั้งแต่เล็ก
เด็ก 2-3 เดือน ควรลองให้เด็กนอนคว่ำให้หัดยกศีรษะขึ้น เพื่อเป็นการสร้างกล้ามเนื้อในหารเจริญเติบโตให้เร็วยิ่งขึ้น พูดคุยเล่น หัวเราะทำท่าทางต่างๆให้เด็กเล่นด้วย ให้เด็กเล่นมือ ดูดนิ้ว รับรู้ความต้องการเมื่อเด็กส่งสัญญาณบอก เช่น การร้องเพื่อให้อุ้ม ร้องเมื่อหิว เปียกแฉะ
เด็กวัย 3-4 เดือน   เด็กในวัยนี้ก็ทำเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้  เพิ่มเติมจากนอนคว่ำแล้วลองท่านอนหงายให้หัดตะแคงตัวบ้าง แล้วให้ลองพยายามเอื้อมจับเพื่อทดสอบความสามารถของเขา
เด็กวัย 4 -5 เดือน   และเด็กในวัยทำเช่นเดียวกับก่อนหน้านี้และลองชี้ชวนให้มองตามสิ่งของที่เคลื่อนไหวได้ ลองให้เด็กจับ mobile ให้เคลื่อนไหวไปมา
เด็กวัย 5-7 เดือน  เด็กในวัยนี้นั้นเป็นวัยที่กำลังอยากเรียนรู้มาก ควรพูดคุยกับเด็กให้บ่อยๆให้เด็กเล่นกับกระจก ให้เด็กมองตามของตก และหัดให้เด็กพลิกคว่ำ หงายจับนั่งพิงเบาะ
เด็กวัย 7-9 เดือน ลองหัดให้เด็กนั่งเอง หัดคลานไปหาสิ่งของต่างๆ หัดให้หยิบจับสิ่งของเล็กๆด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้ แล้วเอาเข้าปาก  เล่นปาของลงพื้นให้เกิดเสียงดัง หัดให้เลียนเสียงสูง ต่ำ ตามที่ผู้ใหญ่สอน
เด็กวัย 9 -11 เดือน  ให้สอนให้หยิบจับของด้วยนิ้วโป้งและนิ้วชี้บ่อยๆจนคล่อง ให้เด็กหัดดื่มน้ำจากแก้ว หัดหยิบอาหารเข้าปาก รู้จักอวัยวะต่างๆบนใบหน้า
เด็กวัย 1 ปี เมื่อเข้าสู่ วัย 1 ปี เด็กควรหัดตั้งไข่ ยืนทรงตัวและเดินเองหัดหยิบจับสิ่งของ และเรื่องการช่วยตนเอง และเริ่มหัดการใช้ชีวิตประจำวัน 

มาชมวีดีโอตัวอย่างพัฒนาการของเด็กวัย 10 เดือนกันนะคะ

"น้องเวียงพิงค์วัย 10 เดือน"


ที่มา : www.doesitend.com
ขอบคุณวีดีโอจากแฟนเพจน้องเวียงพิงค์ค่ะ
https://www.facebook.com/น้องเวียงพิงค์-WeingPing